คาร์ดิฟฟ์
เดอะ บลูเบิร์ดส์ มีลุ้นเก็บชัย 2 เกมติดต่อกันในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 1962
กุนซือ นีล วอร์น็อค ยังคงไร้ตัวเจ็บอาทิ เนธาเนียล เมนเดซ-แลงก์, ลี เพลเทียร์, แดนนี่ วอร์ด และ แจ๊ซซ์ ริชาร์ด ส่วน โจ รอลล์ส จะติดโทษแบนเป็นเกมสุดท้ายจาก 3 นัด
อย่างไรก็ตาม แฮร์รี่ อาร์เทอร์ ที่ไม่สมบูรณ์จนพลาดลงเล่นเกมก่อนอาจได้กลับมาเป็นตัวจริงในนัดนี้
เลสเตอร์
ทัพจิ้งจอกเอาชนะได้ 6 จาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับทีมน้องใหม่ ขณะเดียวกันก็ยิงได้ตลอด 12 นัดหลังสุดในลีก (ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 6)
โคล้ด ปูแอล กุนซือชาวฝรั่งเศสกล่าวก่อนเกมว่าผลนัดนี้ไม่ได้มีความสำคัญไปกว่าการเล่นดีเพื่ออุทิศให้กับคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรที่ประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกจนเป็นหนึ่งใน 5 ผู้เสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน
สภาพทีม เวส มอร์แกน กัปตันทีมจะกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้งหลังพ้นโทษแบนแล้ว แต่ แดเนียล อมาร์ตีย์ ต้องพักยาว 4 เดือนหลังเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้า
11 ตัวจริงตามคาด
คาร์ดิฟฟ์ (4-4-1-1) : นีล เอเธอริดจ์ – บรูโน่ เอกูเอเล่ ม็องก้า, ฌอน มอร์ริสัน, โซล บ็อมบ้า, โจ เบนเน็ตต์ – บิคตอร์ กามาราซ่า, อารอน กุนนาร์สสัน, แฮร์รี่ อาร์เทอร์, จอช เมอร์ฟี่ – บ็อบบี้ รีด – คัลลั่ม เพเตอร์สัน
เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์ – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, น็อมปาลีส เมนดี้ – มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมส์ แมดดิสัน – เจมี่ วาร์ดี้
ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต