เอ็นโซ่ มาเรสก้า เฮดโค้ช เชลซี ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของ ร็อบ โจนส์ ในจังหวะที่ เดวิด บรู๊คส์ แข้งวัย 27 ปีของ บอร์นมัธ ดึงผมตัดเกมใส่ มาร์ค คูคูเรญ่า แต่กลับไม่โดนใบแดง

จังหวะปัญหานาที 54 ระหว่างสกอร์ 1-1 บรู๊คส์ กางแขนขวางคอ คูคูเรญ่า ที่กำลังวิ่งหาช่อง ซึ่งทีแรก ร็อบ โจนส์ เปาในสนามไม่ลงโทษ แต่ควักใบเหลืองหลังดูจอข้างสนามตามคำแนะนำห้อง VAR

พรีเมียร์ ลีก ชี้แจงเหตุผล "บรู๊คส์ เข้าปะทะอย่างเสี่ยงอันตราย แต่ไม่ใช่พฤติกรรมรุนแรง" ทำให้มิดฟิลด์ บอร์นมัธ ได้อยู่ต่อจนถูกเปลี่ยนท้ายเกม

อย่างไรก็ตาม มาเรสก้า เห็นต่างไป สัมภาษณ์หลังแข่งที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์: "ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า สำหรับผม การเข้าปะทะโดยไม่มีเจตนาแย่งบอลคือใบแดง"

"ทีมงานผู้ตัดสิน ต้องออกมาอธิบาย หากพวกเขาให้ใบเหลืองจังหวะนี้ แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นทำไมพวกเขาถึงมองว่ามันไม่ใช่จังหวะอันตราย? คุณไม่สามารถตัดสินแบบนั้น"

"คู่แข่งมีเจตนาแค่ขัดขวาง มาร์ค คูคูเรญ่า ความเห็นของผมคือเขาควรโดนแดง หวังว่าในอนาคต เราจะมีโชคกับผู้ตัดสินมากกว่านี้ ซีซั่นนี้มีหลายครั้งที่เราควรได้จุดโทษเช่นกัน"

การแข่งวันอังคารที่ผ่านมา "สิงห์บลูส์" ได้ โคล พาลเมอร์ ยิงนำต้นเกม แต่ครึ่งหลังโดนแซงนำยังดีที่ รีส เจมส์ แบ็คขวากัปตันลงมาตีเสมอทดเจ็บ

"เราสมควรได้อะไรมากกว่านี้ โดยเฉพาะในครึ่งแรก เราควรจบด้วยการนำ 2-0 หรือ 3-0 แต่นั่นคือฟุตบอล" เฮดโค้ชอิตาเลียน ตอบคำถามว่าผลเสมอยุติธรรมแล้วหรือไม่

"เรื่องแง่ลบคือหลังเสียประตูจากจุดโทษ เราเปลี่ยนวิธีเล่นไปสิ้นเชิง มันไม่ปกติที่เราดร็อปลงแบบนั้น เราต้องทำความเข้าใจเหตุผล และพยายามพัฒนาขึ้น"

"โดยรวมเราควรชนะแบบชัดเจน หลายครั้งคุณโชคดีและสามารถทำประตูจากโอกาสแค่ครั้งเดียว แต่มีอีกหลายครั้งที่คุณต้องสร้างโอกาสถึง 10 ครั้งเพื่อยิงประตู"

"ณ เวลานี้เราเจอความยากลำบากในการประตู แต่เรายังสามารถสร้างโอกาส ผมเชื่อมั่นเต็มที่ว่าลูกทีมจำเป็นต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้เพื่อเติบโต"